วันพฤหัสบดีที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2552

งานชิ้นที่สอง

ปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศได้เข้ามามีบทบาทอย่างกว้างขวางในทุกวงการ เทคโนโลยีสารสนเทศกลายเป็นเครื่องมือสำคัญของการทำงานทุกด้าน นับตั้งแต่ทางด้านการศึกษา พาณิชย์กรรม เกษตรกรรม อุตสาหกรรม สาธารณสุข การวิจัยและพัฒนา ตลอดจนด้านการเมืองและราชการ อันที่จริงแล้วจะเห็นว่าไม่มีงานด้านใดที่ไม่มีผู้คิดประยุกต์หรือนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้าไปช่วยให้การทำงานนั้น ๆ มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลยิ่งขึ้น เทคโนโลยีสารสนเทศสามารถจำแนกตามลักษณะการใช้งานได้เป็น 6 รูปแบบ ดังต่อไปนี้ คือ

1. เทคโนโลยีที่ใช้ในการเก็บข้อมูล เช่น ดาวเทียมถ่ายภาพทางอากาศ, กล้องดิจิทัล, กล้องถ่ายวีดีทัศน์, เครื่องเอ๊กซเลย์ เป็นต้น

2. เทคโนโลยีที่ใช้ในการบันทึกข้อมูล จะเป็นสื่อบันทึกข้อมูลต่าง ๆ เช่น เทปแม่เหล็ก, จานแม่เหล็ก, จานแสงหรือจานเลเซอร์, บัตรเอทีเอ็ม, แผ่นซีดีหรือดีวีดี เป็นต้น

3. เทคโนโลยีที่ใช้ในการประมวลผลข้อมูล ได้แก่ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ทั้งฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์
4. เทคโนโลยีที่ใช้ในการแสดงผลข้อมูล เช่น เครื่องพิมพ์, จอภาพ, แฟ็กซ์ เป็นต้น

5. เทคโนโลยีที่ใช้ในการจัดทำสำเนาเอกสาร เช่น เครื่องถ่ายเอกสาร, เครื่องถ่ายไมโครฟิล์ม เป็นต้น

6. เทคโนโลยีที่ใช้สำหรับถ่ายทอดหรือสื่อสารข้อมูล ได้แก่ ระบบโทรคมนาคมต่าง ๆ เช่น โทรทัศน์, วิทยุกระจายเสียง, โทรเลข และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ทั้งระยะใกล้และไกล

จากการเรียนรู้เทคโนโลยีในห้องทำให้ได้ประโยชน์ต่างๆ ดังนี้

1. ช่วยให้มีการตัดสินใจที่ดีขึ้น จากการได้ทราบรายละเอียดของเทคโนโลยีต่างๆไป ช่วยให้ตัดสินใจเลือกซื้อเทคโนโลยีที่เหมาะต่อการใช้งานได้ เช่น จะซื้อคอมพิวเตอร์ เพื่อใช้งานทั่วไป ก็เลือกที่มีฟังก์ชันการใช้งานปกติก็พอ ไม่จำเป็นต้องเลือกที่มีคุณภาพสูง เพราะถึงแม้จะซื้อไปแต่ถ้าไม่ได้ใช้ก็เปล่าประโยชน์ เป็นเพียงแค่การอวดเทคโนโลยีโชว์กันเท่านั้น

2. ลดค่าใช้จ่าย เนื่องจากการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย ทำให้สะดวก รวดเร็วในการทำงาน และประหยัดด้วย เช่น การส่งงานผ่านทางอินเตอร์เน็ต ที่สะดวก รวดเร็ว และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการปริ้นงานส่ง

3. เพิ่มคุณภาพสินค้าหรือบริการ เช่น ลูกค้าสามารถติดต่อกับศูนย์บริการเพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติม หรือรับบริการได้สะดวกขึ้น พัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนโดยมีการค้นคว้าหาข้อมูลหรือรูปภาพเพิ่มเติมจากเว็บไซด์ต่างๆ ที่นอกเหนือจากห้องสมุด เป็นการฝึกให้รู้จักเรียนรู้ด้วยตนเองมากขึ้น เป็นต้น

4. เพิ่มรายได้ของธุรกิจ เนื่องจากผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสูงหรือบริการที่ดีขึ้น สามารถแข่งขันได้มากขึ้น

5. ผลิตสินค้าใหม่ๆหรือบริการใหม่ๆ ระบบที่พัฒนาขึ้นอาจเป็นที่ต้องการของหน่วยงานอื่นหรือทำให้เกิดการขยายกิจการ เช่น การสร้างเครือข่ายห้องเรียนในการสอนทางไกลผ่านเครือข่ายการสื่อสาร ทำให้สามารถจัดการเรียนการสอนพร้อมกันในสถานที่ต่างกัน เป็นต้น

6. สร้างความได้เปรียบเชิงแข่งขัน

7. สร้างพันธมิตร (alliances) ในการดำเนินงาน เช่น การร่วมมือกันระหว่างครูในการจัดการเรียนการสอนที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน หรือการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ ที่มีเทคโนโลยีในระดับเดียวกันเพื่อสร้างศักยภาพในการดำเนินธุรกิจมากยิ่งขึ้น

8. เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ทั้งในด้านความเที่ยงตรง ความรวดเร็วในความต้องการใช้ข้อมูล ข้อมูลมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้ และสามารถตรวจสอบข้อมูลได้อย่างถูกต้อง

9. ช่วยในการปรับรื้อระบบ (reengineering) และพัฒนาระบบให้สอดคล้องกับความต้องการขององค์กรได้อย่างต่อเนื่อง โดยการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเครื่องมือการปรับระบบและพัฒนาระบบให้ทันสมัยอยู่เสมอ

10. เสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เครื่องอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น ควบคุมการเปิด-ปิดไฟฟ้าในบ้านผ่านรีโมท ควบคุมระบบปรับอากาศ เครื่องดูดฝุ่นอัตโนมัติ ไมโครเวฟ แฟ๊กซ์ โทรศัพท์มือถือ เป็นต้น
11. ทำให้เกิดความเท่าเทียมกันในสังคม เทคโนโลยีสารสนเทศที่กระจายไปทั่วทุกแห่งทำให้ทุกคนที่สนใจมีโอกาสในการเรียนรู้ที่เท่าเทียมกัน เช่น ระบบการเรียนการสอนทางไกล ใครๆ ก็สามารถเข้าไปหาความรู้ได้ ระบบอินเทอร์เน็ตตำบล ช่วยให้เกษตรกรรู้ความเคลื่อนไหวของราคาผลผลิตในแต่ละวัน แพทย์สามารถให้การรักษาพยาบาลกับผู้ป่วยที่อยู่ห่างไกลโดยตรวจอาการผ่านกล้องวิดีโอจากระบบอินเทอร์เน็ตเป็นต้น
12. เป็นประโยชน์ต่อการเรียนการสอน
เช่น การเรียนการสอนโดยใช้เว็บเป็นหลัก เป็นการจัดการเรียนที่มีสภาพการเรียนต่างไปจากรูปแบบเดิม การเรียนการสอนแบบนี้ อาศัยศักยภาพและความสามารถของเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นการนำเอาสื่อการเรียนการสอน ที่เป็นเทคโนโลยี มาช่วยสนับสนุนการเรียนการสอน ให้เกิดการเรียนรู้ การสืบค้นข้อมูล และเชื่อมโยงเครือข่าย ทำให้ผู้เรียนสามารถเรียนได้ทุกที่และทุกเวลา

13. สะดวกต่อการติดต่อสื่อสาร เช่น โทรศัพท์มือถือ แฟ็กซ์ E-mail หรือผ่านทางอินเทอร์เน็ต( เช่น MSN) เป็นต้น

ตัวอย่างเทคโนโลยีที่ได้นำเสนอในห้อง กล้องดิจิตอล DSLA A330

มีคำอธิบายการใช้งานเป็นภาษาไทยในตัวกล้อง มือใหม่หัดถ่ายรูปก็สามารถใช้ได้ ปกติเวลาจะเริ่มใช้งานกล้องจะเห็นโหมดต่างๆให้เลือกมากมายและเอาจะงงว่าโหมดไหนเป็นอะไร ซึ่งกล้องรุ่นนี้จะมีภาษาไทยอธิบายในแต่ละโหมดการใช้งาน ทำให้ไม่ต้องเปิดคู่มือดูให้วุ่นวาย ความละเอียดในการถ่ายภาพสูงสุด 10.2 ล้านพิกเซล พร้อมเทคโนโลยี SteadyShot INSIDE Stabilization ป้องกันภาพสั่นไหว และระบบขจัดฝุ่นที่เซ็นเซอร์ โหมดฟังก์ชั่นต่างๆ เช่น รูปคน เป็นการถ่ายภาพบุคคล ฉากหลังจะเบลอ เน้นความคมชัดที่ตัวคน ปรับโทนสีผิวให้ดูนุ่มนวลและปรับโฟกัสที่ดวงตา นอกจากนี้ก็มีโหมดวัตถุ กีฬา ภาพวันตกดิน และภาพวิวตอนกลางคืน เป็นต้น สามารถถ่ายภาพเคลื่อนไหวได้โดยเลือกโหมดปรับความเร็วชัตเตอร์ ถ้าเลือกปรับความเร็วชัตเตอร์สูงๆ ก็ใช้กับภาพที่มีการเคลื่อนไหวเร็วๆ ภาพที่ได้ก็จะหยุดนิ่งได้ท่าไหนก็ท่านั้นเลย ถ้าปรับไปที่ชัตเตอร์ต่ำ ก็ใช้ถ่ายภาพเคลื่อนไหวปกติทั่วไป สามารถปรับรูรับแสงได้ โดยที่ปรับรูรับแสงแคบก็จะได้ภาพชัดลึก คือชัดทั้งภาพ แต่เมื่อปรับไปที่รูรับแสงกว้าง ภาพจะเป็นแบบชัดตื้น คือ ฉากหลังก็จะเบลอๆ มีหน้าจอขนาด 2.7 นิ้ว นอกจากนี้ยังสามารถปรับเอนหน้าจอ หรือดึงหน้าจอออกมาปรับขึ้น-ลงได้เพื่อสะดวกในการถ่ายภาพมุมสูงหรือต่ำ

นอกจากจะเหมาะกับใช้ในครอบครัวแล้ว ยังเหมาะกับการศึกษาในกลุ่มของสื่อสารมวลชน ซึ่งกล้องตัวนี้ก็มีฟังก์ชันโหมดต่างๆ ที่น่าสนใจเยอะ สามารถเลือกที่จะถ่ายรูปในรูปแบบต่างๆได้ง่ายขึ้น หรือกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นๆ ก็ใช้ได้ สำหรับรูปที่เราถ่ายเองได้ ก็ไม่จำเป็นต้องหารูปทางอินเตอร์เน็ตอีก

ชีวิตความเป็นอยู่ในปัจจุบันเกี่ยวข้องกับสารสนเทศต่าง ๆ มากมาย เพื่อให้สารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับ

มนุษย์เป็นระบบมาก ขึ้น จึงมีการจัดการสารสนเทศเหล่านั้นให้เป็นเชิงระบบ การใช้สารสนเทศเกี่ยวข้องกับทุกคน การเรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศจึงมีความจำเป็น เทคโนโลยีสารสนเทศจึงเป็นเทคโนโลยีแห่งศตวรรษนี้ ที่ใช้ในการจัดเก็บรวบรวมข้อมูล การสื่อสารข้อมูลที่เห็นเด่นชัดขณะนี้ และกำลังมีบทบาทอย่างมาก และเรื่องเทคโนโลยี อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เราได้จาก การนำเอาเทคโนโลยี บวกกับ การดัดแปลงสิ่งต่าง ๆ จากเทคโนโลยีสารสนเทศเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันทั้งสิ้น โครงสร้างและรูปแบบของข้อมูลที่ประมวลผล

ด้วยคอมพิวเตอร์ เป็นโครงสร้างที่จะมีรูปแบบชัดเจน การจัดการข้อมูลจึงมีข้อตกลงเฉพาะ เพราะคอมพิวเตอร์สามารถแยกแยะข้อมูลได้ง่ายข้อเด่นของการประมวลผลข้อมูลคอมพิวเตอร์ นอกจากในเรื่องความเร็วและความแม่นยำแล้ว ยังเป็นเรื่องของการคัดลอกและแจกจ่ายข้อมูล ด้วยความก้าวหน้าและเปลี่ยนแปลงโครงสร้างในยุคของสารสนเทศ การปรับตัวของสังคมจึงเกิด ขึ้น บทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศที่กำลังเปลี่ยนแปลงสังคมนี้เอง ผลักดันให้เราศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเพื่อปรับตัวให้เข้ากับสังคมได้

วันพุธที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2552

งานชิ้นที่ 1

ในปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้เข้ามามีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต และการทำงานของคนเราทำให้เกิดสังคมยุคสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับการใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีโทรคมนาคมในการทำงาน การใช้ชีวิตประจำวันและการเรียนรู้ สังเกตุได้จากการศึกษาทางไกลผ่านระบบเครือข่าย การติดต่อสื่อสารทาง E-mail และการแพร่กระจายของข้อมูลข่าวสารบนอินเทอร์เน็ตและเว็บไซต์ต่าง ๆ
จากการที่ได้ดูสไลด์นั้น ทำให้ตระหนักถึงบทบาทของครูยุคไอที คือครูต้องมีความรู้ทางด้านไอที เนื่องจากปัจจุบันการเรียนรู้ไร้ขีดจำกัด ครูจึงต้องเรียนรู้และมีความรู้ทางด้านการใช้ ไอที เพื่อเป็นทั้งการให้ความรู้และป้องกันการใช้ไอทีของนักเรียนในเรื่องที่ไม่สมควร
นอกจากนี้ครูควรสอนวิธีเรียนมากกว่าสอนเนื้อหา เพราะเนื้อหามีมากเกินกว่าที่จะเรียนรู้ได้อย่างพอเพียงในห้องเรียน ข้อมูลและเนื้อหาก็เปลี่ยนแปลงเร็ว ครูต้องทำหน้าที่เป็นผู้จัดการสารสนเทศและจัดการความรู้ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างเหมาะสมมากกว่าที่จะถ่ายทอดตัวความรู้ เพราะมีสื่อมากมายที่ถ่ายทอดความรู้ได้ดีกว่าครู ฉะนั้นครูเองก็ต้องเป็นผู้ที่สามารถใช้เทคโนโลยีได้อย่างหลากหลายอย่างเป็นระบบ เพื่อออกแบบให้เกิดสภาวะแวดล้อมในการเรียนรู้ที่เหมาะสมสำหรับผู้เรียน
ค่านิยม วัฒนธรรม ความดีงาม คุณธรรมจริยธรรม ยังเป็นสิ่งที่จำเป็นที่ครูต้องทำหน้าที่เป็นผู้ปลูกฝังถ่ายทอด ในประเด็นนี้คือครูต้องเป็นทั้งแบบอย่าง ผู้ส่งเสริมและผู้ถ่ายทอดสิ่งเหล่านี้ ซึ่งถึงแม้ว่าไอทีจะเข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างไร แต่การอบรมสั่งสอนของครูในด้านค่านิยม ความดีงาม คุณธรรมจริยธรรม ก็ยังสำคัญและมีความจำเป็นกว่า ถ้าสามารถพัฒนานักเรียนให้มีความรู้ทางด้านไอทีควบคู่กับการมีคุณธรรมจริยธรรม
จากตัวอย่างหนังทำให้นึกถึงเรื่อง “สิทธิส่วนบุคคล” ที่ดูจะถูกคุกคามมากขึ้นทุกวัน สังเกตุจากการที่หนังถ่ายจับไปที่ภาพในกล้องวงจรปิดหลายครั้งหลายหน ก็เหมือนจะบอกเป็นนัยๆ ว่าโลกใหม่ในยุคนี้ไม่มีอะไรอีกแล้วที่จะเหลือเป็น “ความลับ” ไม่เว้นแม้แต่เรื่องส่วนตัวของคนแต่ละคน ซึ่งในหนังก็แสดงประเด็นนี้ออกมาได้ชัดคือสามารถค้นหาตัวพระเอกได้จากกล้องวงจรปิด สัญญาณมือถือ หรือแม้แต่การแอบดักฟังของEagle eyeเองที่ค้นหาเทคโนโลยีต่างๆที่มีสัญญาณก่อน แต่ไม่พบจึงใช้คลื่นเสียงจากการสั่นสะเทือนของแก้วน้ำแล้วแปลงออกมาเป็นคำพูด ซึ่งก็ถือเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการแทรกแซงชีวิตส่วนตัวของคนอื่น แต่คิดอีกมุมหนึ่งถ้าเกิดมีเทคโนโลยีนี้ก็มีประโยชน์ คือสามารถติดตามหาตัวคนๆ หนึ่งได้เร็ว รู้ได้ว่าจะมีการก่อการร้ายหรือไม่ มีภัยคุกคามใดๆ ต่อประเทศไหม เป็นต้น โดยรวมคิดว่าเทคโนโลยีนั้นมีประโยชน์มากมายก็จริง แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการนำไปใช้ของแต่ละบุคคลมากกว่า สังเกตุจากมี Hacker ขโมยข้อมูลบ้าง หรือปล่อยไวรัสเพื่อทำลายข้อมูลของผู้อื่น การดูเว็บโป้ การแพร่ภาพอนาจารบนเครือข่าย เล่นเกม อาชญากรรมบนอินเตอร์เน็ต เป็นต้น
ศตวรรษที่ 21 เป็นศตวรรษที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเป็นอย่างมาก ประชากรบนโลกได้รับข่าวสารรวดเร็ว มีการติดต่อสื่อสารกันอย่างอิสระเรียกได้ว่าเป็นยุคโลกาภิวัฒน์ โลกที่เคยกว้างใหญ่กลับเล็กลง ดินแดนแต่ละประเทศที่อยู่ห่างไกลกันสามารถติดต่อกันได้ภายในเวลาเพียงเสี้ยววินาทีเปรียบเหมือนเป็นหมู่บ้าน ภูเขาและทะเลซึ่งเป็นพรมแดนธรรมชาติที่เคยเป็นอุปสรรคในการติดต่อไปมาหาสู่ดูเหมือนจะไม่ได้เป็นอุปสรรคอีกต่อไปจนกลายเป็นโลกไร้พรมแดน
การที่เราจะดำรงชีวิตในศตวรรษที่ 21 ได้นั้น เราต้องมีความตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้ทันยุคทันสมัย จึงควรปฏิบัติตนดังนี้
1. ด้านภาษา ควรจะศึกษาหาความรู้ทางด้านภาษาให้มีมากกว่าสองภาษาที่รองมาจากภาษาอังกฤษ เช่น ภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่น ภาษาเกาหลี ภาษาฝรั่งเศส เป็นต้น
2. ด้านเทคโนโลยี มีบทบาทต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของมนุษย์ในทุกๆ ด้านจนแทบจะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของมนุษย์ไปเลยก็ว่าได้ และทุกๆ วันเทคโนโลยีก็ได้ถูกพัฒนาให้เจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง เทคโนโลยีเอื้ออำนวยความสะดวกให้แก่มนุษย์ในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการสื่อสาร การคมนาคม ทำให้มนุษย์สามารถติดต่อถึงกันข้ามทวีปได้โดยใช้เวลาไม่ถึงนาที เช่น โทรศัพท์มือถือ อินเตอร์เน็ต นอกจากนี้ยังมีด้านการศึกษา เช่น ใช้คอมพิวเตอร์เป็นสื่อในการสอน เป็นต้น ด้านการแพทย์ เช่น วินิจฉัยโรคจากฐานข้อมูลความรู้ของผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางการแพทย์ ในสถาบันการแพทย์ที่มีชื่อเสียงได้ทั่วโลก หรือใช้วิธีปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในระบบทางไกล ฯลฯ จึงมีความจำเป็นเป็นอย่างมากที่เราจะต้องศึกษาหาความรู้ทางด้านนี้
3. ด้านการเงิน เงินเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิตของมนุษย์ เราควรใช้เงินให้รู้ค่า เช่น แบ่งเงินออกเป็นสามส่วน โดยสองส่วนแรกใช้ในการดำรงชีวิต ส่วนสุดท้ายฝากธนาคาร เพราะเมื่อเวลาผ่านไปจะมีเงินออมจำนวนมากไว้ใช้ในอนาคต และจะได้ไม่ขัดสน
4. ด้านความบันเทิง แบ่งเวลาให้ถูก ไม่เอาแต่เล่นเกมออนไลน์ อ่านหรือดูการ์ตูนออนไลน์ ซึ่งการจ้องมองคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ มีผลเสียต่อสายตาซึ่งทำให้สายตาผิดปกติ มีอาการแสบตา เวียนศีรษะ นอกจากนั้นยังมีผลต่อสุขภาพจิต เกิดโรคทางจิตประสาท ควรแบ่งเวลาอ่านหนังสือที่เป็นประโยชน์ต่อการสอนหรือศึกษาการใช้โปรแกรม และลองฝึกปฏิบัติ
ดังนั้นกระบวนการเรียนการสอนในปัจจุบันจึงมีความจำเป็นอย่างสูงที่จะต้องนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาจัดการ ด้วยเหตุว่าข้อมูลข่าวสารที่จะนำเข้ามาสู่ห้องเรียนในปัจจุบันส่วนใหญ่จะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับสารสนเทศ กระบวนการสอนของครูและวิธีการศึกษาของนักเรียนก็ต้องเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย โดยปรับรูปแบบของความรู้ให้เหมาะสมกับกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียน บทบาทครูจะต้องเป็นผู้สร้างสรรค์และส่งเสริมให้นักเรียนได้ใช้สื่อเพื่อการศึกษาอย่างเป็นกระบวนการ ได้รับความรู้จากการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองอย่างแท้จริง โดยผู้เรียนจะต้องมีความเข้าใจถึงความสัมพันธ์ขององค์ความรู้กับการค้นคว้า เข้าใจและรู้จักเลือกสรรข้อมูลที่มีอยู่อย่างมากมาย นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด อีกทั้งในปัจจุบันนาๆ ประเทศต่างให้ความสำคัญของการเรียนรู้เทคโนโลยีสารสนเทศ ดังนั้น จึงต้องเอาใจใส่ติดตามเป็นประจำ มิฉะนั้นจะกลายเป็นคนล้าหลัง นอกจากนั้นครูต้องส่งเสริมให้นักเรียนรู้จักแสวงหาความรู้ได้ด้วยตนเอง ทั้งนอกและในโรงเรียน